การทำ CPR ไม่ให้หัวใจน้องหมาหยุดเต้น
แม้เราจะป้องกันดูแลน้องหมาดีแค่ไหน แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจหมายถึงชีวิตของน้องหมาที่เรารักเลยก็ได้ การเรียนรู้วิธีการกู้ชีพน้องหมาเบื้องต้นในระหว่างที่พามาน้องหมามาส่งถึงมือสัตวแพทย์ก็จะช่วยพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับน้องหมาของเราได้ค่ะ
การกู้ชีพน้องหมาในที่นี้ก็คือ การทำ CPR (Cardiopulmonary Resuscitation) ซึ่งเป็นการกู้ชีพเพื่อไม่ให้หัวใจหรือการหายใจของน้องหมาหยุดไปจนจัดว่าเสียชีวิต และยังรวมไปถึงการรักษาสภาพการทำงานของสมองไว้ด้วย การทำ CPR เบื้องต้นนี้ไม่ได้ใช้เพื่อทำให้น้องหมาที่จัดว่าเสียชีวิตไปแล้วคืนชีพมาได้ แต่เป็นการทำให้หัวใจและอวัยวะสำคัญสามารถทำงานต่อไปได้ จนกว่าหัวใจและปอดกลับมาทำงานได้ด้วยตนเองอีกครั้ง ในคนนั้นพบว่าการทำ CPR สามารถทำให้คนรอดชีวิตมาได้ราวๆ 15% แต่ในน้องหมานั้นมักไม่ค่อยได้ผลดีเท่าไหร่ เพราะบางครั้งใช้เวลาเดินทางมาโรงพยาบาลสัตว์นาน และระหว่างเดินทางไม่ได้ทำการกู้ชีพเบื้องต้นไว้ก่อนเพราะว่าทำไม่เป็น เมื่อมาถึงมือสัตวแพทย์ก็มักจะสายเกินไปแล้วนั่นเอง
ขั้นตอนในการกู้ชีพน้องหมาเบื้องต้นที่เจ้าของทำได้จะแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนที่เรียกว่า ABCs ซึ่งได้แก่ A (Airway) เป็นขั้นตอนที่เตรียมทางเดินหายใจให้เปิดโล่ง เพื่อเป็นทางผ่านของอากาศ B (Breathing) ก็คือการทำให้หายใจ และ C (Circulation) คือการทำให้ระบบไหลเวียนเลือดเป็นไปได้ด้วยดี การเริ่มทำ CPR นั้นจะเริ่มทำในกรณีที่น้องหมาเริ่มไม่หายใจเองหรือเริ่มคลำไม่พบชีพจรแล้วเท่านั้น ห้ามทำในน้องหมาที่ยังหายใจได้ปกติหรือยังมีชีพจรชัดเจนเด็ดขาดนะคะ
Airway
เมื่อพบว่าน้องหมาหยุดหายใจ สิ่งที่เจ้าของควรตรวจดูอันดับแรก คือ มีอะไรอุดตันทางเดินหายใจหรือไม่ ใช้ความระมัดระวังในการล้วงมือเข้าไปในคอน้องหมาที่ไม่ได้สติ เพราะในบางครั้งอาจมีรีเฟล็กกระตุ้นให้น้องหมางับมือเราได้ ถ้าพบว่ามีอะไรอุดตันทางเดินหายใจ ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- จัดท่าให้น้องหมานอนตะแคง
- จัดท่าให้บริเวณคอและหัวยืดออก แต่ไม่ใช่ยืดออกจนคอบิดไปด้านบนมากไปนะคะ
- ดึงลิ้นออกมาไว้ด้านนอกปาก
- เปิดปากดูและมองหาสิ่งที่ทำให้เกิดการอุดตัน ถ้าพอคีบหรือดึงออกมาได้ก็เอาออกมาเลย แต่ระวังอย่าไปหนีบหรือไปดึงกระดูกโครงสร้างบริเวณกล่องเสียงนะคะ
- ถ้าไม่สามารถดึงออกมาได้ อาจใช้จับให้ส่วนหัวและคอของน้องหมาก้มต่ำลง แล้วกอดด้านหลังของตัวน้องหมาใช้มือ 2 ข้างประสานกันหลังซี่โครงซี่สุดท้าย และออกแรงกดจนสิ่งแปลกปลอมกระเด็นออกมานอกหลอดลม และให้รีบเอาสิ่งแปลกปลอมนั้นออกไป อาจดูคลิปวิดีโอสาธิตการทำแบบนี้ได้ที่http://www.ehow.com/video_4977783_perform-heimlich-maneuver-cat-small.html
Breathing
ถ้าสุนัขของคุณยังหายใจได้เอง ก็จัดท่าทางให้น้องหมาหายใจได้สะดวกที่สุด แต่ถ้าน้องหมาหยุดหายใจ ให้เจ้าของเช็คดูว่าไม่มีอะไรอุดตันทางเดินหายใจ และเริ่มทำการช่วยหายใจ โดยการทำ mouth to nose (เป่าลมจากปากเข้าทางจมูก) โดยเอามือของเรากุมไว้รอบๆปากน้องหมาทั้งสองข้าง และเป่าลมเข้าทางจมูกน้องหมา และปล่อยให้หายใจออก ถ้าน้องหมายังไม่สามารถหายใจเอง ให้ทำซ้ำๆไปเรื่อยๆ ให้เป่าลมเข้าปากน้องหมาแบบนี้ในอัตรา 20-30 ครั้งต่อนาที อาจให้อีกคนเช็คว่าหัวใจยังเต้นอยู่หรือไม่ ถ้าหัวใจไม่เต้นก็ต้องทำการปั๊มหัวใจด้วย
Circulation
การทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงาน ก็คือการที่หัวใจทำงานเพื่อปั๊มเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ถ้าหัวใจน้องหมาหยุดเต้นก็ต้องทำการปั๊มหัวใจน้องหมาให้กลับมาทำงาน เริ่มจากจัดวางน้องหมาลงบนพื้นที่แข็งเพื่อทำการปั๊มหัวใจ อย่าวางบนพื้นที่อ่อนนุ่ม เพราะอาจทำให้การออกแรงกดเพื่อกระตุ้นหัวใจทำได้ไม่ดีค่ะ
กรณีน้องหมาหนักน้อยกว่า 30 ปอนด์ หรือ 13.6 กิโลกรัมลงมา
- สอดอุ้งมือหรือปลายนิ้วไปตรงช่วงอก บริเวณที่ข้อศอกของน้องหมาแตะกับช่วงอกในท่านอนตะแคง โดยให้ตัวของเจ้าของอยู่ด้านเดียวกับหน้าอกของน้องหมา
- ออกแรงกดให้รู้สึกว่ากดลึกลงไปประมาณ 1 นิ้ว โดยใช้ความเร็วในการกด 2 ครั้งต่อ 1 วินาที
- กดช่องอก 5 ครั้งสลับกับการช่วยหายใจ 1 ครั้ง ทำไปจนครบ 1 นาที ถ้าหัวใจน้องหมายังไม่เต้น ให้กลับไปทำต่อ
- กรณีน้องหมาหนัก 30-100 ปอนด์ หรือ 13.6-45 กิโลกรัม
- หลังจากวางน้องหมาไว้บนพื้นแข็ง ให้ตัวเจ้าของอยู่ฝั่งที่ตรงกับด้านแผ่นหลังของน้องหมา
- ใช้มือสองข้างวางทับกันบนอกน้องหมาที่บริเวณที่ข้อศอกของน้องหมาในท่านอนตะแคงแตะกับช่องอก โดยยืดข้อศอกให้ตรง อย่างอข้อศอกเวลาออกแรงกด
- ออกแรงกดให้ลึกลงไปประมาณ 2-3 นิ้ว ใช้ความเร็วในการกด 1.5-2 ครั้งต่อวินาที
- กดช่องอก 5 ครั้งสลับกับช่วยหายใจ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 นาทีแล้วเช็คว่าหัวใจเต้นหรือไม่ ถ้าไม่ให้กลับไปทำต่อ
กรณีน้องหมาหนักมากกว่า 100 ปอนด์ หรือ 45 กิโลกรัมขึ้นไป- วิธีการวางมือและออกแรงกดเหมือนกับที่ทำในน้องหมาหนัก 30-100 ปอนด์
- ใช้ความเร็วในการกด 1 ครั้งต่อ 1 วินาที
- กดช่องอก 10 ครั้งสลับกับช่วยหายใจ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 นาทีแล้วเช็คว่าหัวใจเต้นหรือไม่ ถ้ายังไม่เต้นก็กลับมากู้ชีพต่อ
ให้เจ้าของทำ CPR นี้ไปจนกระทั่งส่งถึงมือสัตวแพทย์ โดยมากถ้าทำการกู้ชีพนี้ไปประมาณ 20 นาทีแล้วน้องหมายังไม่มีชีพจรและหายใจได้เอง ก็มักจะพบว่าน้องหมามักไม่รอดค่ะ