อากาศร้อนตัวแปรสำคัญทำให้น้องหมาผลัดขน
หากสังเกตกันดีๆ ผู้เลี้ยงจะพบว่า ในช่วงเดือนเมษายนจะเป็นช่วงที่น้องหมามักจะผลัดขนออกมามากกว่าปกติ ซึ่งผู้เลี้ยงหลายๆ บ้านอาจจะเป็นกังวลว่า น้องหมาของตัวเองผลัดขนมากเกินไปหรือเปล่า และจะเป็นโรคอะไรไหม? ขอตอบเลยค่ะว่า การที่น้องหมาผลัดขนออกมาค่อนข้างเยอะในหน้าร้อนนั้น น้องหมาเค้าไม่ได้มีความผิดปกติอะไรค่ะ เพียงแต่เป็นกลไกลทางธรรมชาติที่ส่งผลมาจากสภาพอากาศร้อนในช่วงเดือนมีนาคม เมษายน ซึ่งระบบร่างกายของน้องหมาจะผลัดขนทิ้งเพื่อให้ขนบางลง ทำให้การระบายความร้อนบริเวณผิวหนังทำได้ดีขึ้น และหลังจากที่ขนน้องหมาหลุดร่วงออกไปก็จะมีขนรุ่นใหม่ขึ้นมาทดแทนขนเท่านั่นเองค่ะ
โดยปกติแล้วร่างกายของน้องหมาจะระบายความร้อนทางปาก ลิ้นและอุ้งเท้าโดยไม่มีต่อมเหงื่อตามรูขุมขนตามผิวหนังเหมือนคนเรา การผลัดขนจึงเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายของน้องหมาไม่ให้สูงเกินไปค่ะ
โดยปกติแล้วร่างกายของน้องหมาจะระบายความร้อนทางปาก ลิ้นและอุ้งเท้าโดยไม่มีต่อมเหงื่อตามรูขุมขนตามผิวหนังเหมือนคนเรา การผลัดขนจึงเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายของน้องหมาไม่ให้สูงเกินไปค่ะ
ทั้งนี้ ลักษณะของขนที่ร่วงจากอากาศร้อนจะแตกต่างจากขนร่วงจากภาวะน้องหมาป่วยเป็นโรคผิวหนังค่ะ โดยน้องหมาที่เริ่มมีอาการของโรคผิวหนังจะสังเกตได้ง่ายๆ คือ ขนจะร่วงหายไปเป็นหย่อมๆ และอาจมีอาการอักเสบของผิวหนังร่วมด้วย ซึ่งสามารถทำให้น้องหมาอาจมีอาการคัน และเกาบริเวณที่เป็นจนทำให้เกิดขนร่วงได้ในที่สุดค่ะ
สุนัขขนยาว
ในหน้าร้อนแบบนี้ น้องหมาที่มีขนยาว หนาแน่น หรือน้องหมาที่มีขน 2 ชั้น อย่าง ปอมเมอเรเนียน เชาเชา ชิสุ ฯ เป็นน้องหมาที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่จากผู้เลี้ยงมากเป็นพิเศษ เพราะว่าโดยปกติแล้วน้องหมาจะมีต่อมเหงื่อน้อยกว่ามนุษย์ การระบายความร้อนจึงทำได้ช้ากว่า ซึ่งน้องหมาที่มีขนยาวและหนามากๆ โดยเฉพาะน้องหมาขนยาวที่มีสีขนเข้ม เช่น สีดำ สีเทา จะดูดซับและเก็บกักความร้อนจากแสงแดดไว้ในร่างกายได้เป็นอย่างดี ซึ่งน้องหมาที่มีสีขนเข้มมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ง่ายกว่าน้องหมาที่มีสีขนอ่อน เช่น สีขาว สีน้ำตาลอ่อน ฯ นอกจากนี้ น้องหมาขนยาวมีโอกาสที่ขนจะเป็นสังกะตังง่ายกว่าน้องหมาขนชนิดอื่นค่ะ ฉะนั้น ในหน้าร้อนนี้ผู้เลี้ยงจึงไม่ควรละเลยการดูแลน้องหมาขนยาวที่บ้านกันด้วยนะคะ
ในหน้าร้อนผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการจับน้องหมาอาบน้ำบ่อยๆ แต่ควรเปลี่ยนมาเป็นการตัดขนแทนจะดีกว่าค่ะ เพราะว่าการอาบน้ำบ่อยๆ จะเป็นการทำลายไขมันที่ร่างกายน้องหมาผลิตออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน ซึ่งจะส่งผลทำให้ผิวหนังและเส้นขนหยาบ แห้ง ขาดความเงางาม ก่อให้เกิดอาการคันในน้องหมาบางตัว และอาจทำให้น้องหมาเป็นโรคผิวหนังอักเสบได้ ซึ่งถ้าหากมีอาการรุนแรงผิวหนังก็จะสามารถติดเชื้อได้ และยิ่งในหน้าร้อนแบบนี้ หากผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาขาดน้ำมันมาเคลือบ ก็จะยิ่งทำให้ผิวหนังของน้องหมาบอบบางยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
ส่วนวิธีการดูแลขนสำหรับน้องหมาในหน้าร้อน ควรเริ่มจากการตัดขนก่อนอาบน้ำทำความสะอาด โดยขนบริเวณที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษคือ บริเวณรอบดวงตา รอบปาก ขนใต้อุ้งเท้า รอบก้น ใต้ท้อง เพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้น ส่วนขนบริเวณลำตัวก็ไม่ควรตัดสั้นเกินไป หรือไถจนติดผิวหนัง เพราะจะทำให้แสงแดดทำอันตรายต่อผิวหนังของน้องหมาได้ง่ายขึ้น (โดยปกติน้องหมาขนยาว จะมีลักษณะผิวหนังที่ค่อนข้างอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว) และหลังจากการตัดขนเรียบร้อยแล้วให้แปรงเอาขนเก่าออกให้หมด (เพื่อนๆ สามารถแปรงขนน้องหมาได้ง่ายๆ กับบทความ แปรงขนน้องหมายังไงให้ถูกวิธี) จึงค่อยลงมืออาบน้ำ เช็ดตัว เป่าขนให้แห้ง ดึงขนหูค่ะ
ส่วนอาการที่มักพบบ่อยในหน้าร้อนสำหรับน้องหมาขนยาวที่ผู้ลี้ยงควรระวังนอกจากโรคลมแดด หรือ ฮีทสโตรก (Heat Stroke) ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตแล้วก็คือ "ภาวะแพ้อากาศร้อนจัด" หรือที่เรียกว่า "Hot Spot" โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้มีหลายอย่าง เช่น อาบน้ำแล้วเป่าขนไม่แห้ง แพ้น้ำลายเห็บหมัด แพ้แชมพู รวมถึงสภาพอากาศร้อน ความชื้นสูง ซึ่งสาเหตุทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมอาการให้รุนแรงมากขึ้น อาการของ Hot Spot ที่น้องหมาจะแสดงออกมาคือ น้องหมาจะมีการอักเสบ ร้อน บวมแดง ของผิวหนังบริเวณต่างๆ น้องหมาจะคัน เลีย กัด เกา บริเวณที่เป็นแผลทำให้มีอาการอักเสบและลุกลามไปเรื่อยๆ หากมีแบคทีเรียเข้ามาร่วมด้วยก็จะกลายเป็นหนอง ผิวหนังบริเวณที่เป็นจะเปียกชื้น มีกลิ่นเหม็น ค่ะ ส่วนการรักษาก็ขึ้นอยู่กับกรณี ซึ่งอาจจะเริ่มด้วยการโกนขนบริเวณที่เป็น และล้างให้สะอาดเพื่อไม่ให้เกิดการอับชื้น ใช้ครีมหรือยาทาภายนอกเพื่อควบคุมการติดเชื้อแบคที่เรีย หรือในรายทีมีการลุมลามมาก ก็จำเป็นต้องมีการให้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ร่วมกับการให้ยาลดการอักเสบค่ะ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะแพ้อากาศร้อนจัด หรือ Hot Spot กับบทความ"Hot Spot" โรคผิวหนังที่อาจเกิดกับสุนัขในหน้าร้อน
สุนัขขนสั้น
น้องหมาขนสั้นเป็นน้องหมาที่ดูแลขนง่ายกว่าน้องหมาที่มีขนยาว เพราะโดยปกติน้องหมาขนสั้นส่วนมากจะมีขนชั้นเดียว ลักษณะขนจะไม่หนา มีความโปร่งบาง และมักจะผลัดขนตามกระบวนการทางธรรมชาติคือ 2 ครั้งต่อปี ซึ่งการผลัดขนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของน้องหมาค่ะ ด้วยลักษณะขนที่มีความสั้น และบางของน้องหมาขนสั้น การดูแลขนจึงทำความสะอาดได้ง่าย และไม่ค่อยพบปัญหาเรื่องโรคผิวหนังค่ะ
สำหรับน้องหมาขนสั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษเหมือนน้องหมาขนยาว แต่ผู้เลี้ยงก็ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพขน และผิวหนังของน้องหมาเป็นประจำ โดยเฉพาะในหน้าร้อนแบบนี้ ผู้เลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้องหมาขนสั้นนอนอาบแดด หรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ เพราะน้องหมาขนสั้นมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังสีอ่อน ขนสีอ่อน เช่น สีขาว หรือน้องหมาที่ไม่ค่อยมีขนบริเวณท้อง เช่น น้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวนด์ เกรทเดน บูลเทอร์เรีย เป็นต้น
สำหรับน้องหมาขนสั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษเหมือนน้องหมาขนยาว แต่ผู้เลี้ยงก็ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพขน และผิวหนังของน้องหมาเป็นประจำ โดยเฉพาะในหน้าร้อนแบบนี้ ผู้เลี้ยงไม่ควรปล่อยให้น้องหมาขนสั้นนอนอาบแดด หรืออยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ เพราะน้องหมาขนสั้นมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับน้องหมาขนสั้นที่มีผิวหนังสีอ่อน ขนสีอ่อน เช่น สีขาว หรือน้องหมาที่ไม่ค่อยมีขนบริเวณท้อง เช่น น้องหมาพันธุ์เกรย์ฮาวนด์ เกรทเดน บูลเทอร์เรีย เป็นต้น
นอกจากนี้แสงแดดจัดยังเป็นตัวกระตุ้นทำให้สีขน และสีผิวในน้องหมาบางตัวเปลี่ยนได้ ขนและสีผิวของน้องหมาอาจจะเปลี่ยนจากสีเข้มเป็นสีอ่อนลง ซึ่งจะคล้ายๆ กับโรคด่างขาวของมนุษย์อย่างเราๆ นี่แหละค่ะ ซึ่งผู้เลี้ยงอาจปกป้องผิวหนังของน้องหมาให้ห่างไกลโรคมะเร็งผิวหนังได้ด้วยการทาครีมกันแดดสำหรับเด็ก หรือสูตรอ่อนโยนมาทาตรงจุดที่มีขนปกคลุมน้อย เช่น ขาพับ ใบหู หน้าท้อง ฯ ในวันที่มีแดดจัดมากๆ ก็ได้ค่ะ
สุนัขขนยาวปานกลาง
สำหรับน้องหมาที่มีขนยาวปานกลางอย่างน้องหมาสายพันธุ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์ บางแก้ว อาคิตะ คอร์กี้ พูเดิ้ล ชเนาเซอร์ ฯลฯ เป็นน้องหมาที่ไม่ต้องดูแลขนเป็นพิเศษเหมือนน้องหมาที่มีขนยาว เพียงแต่ต้องการการแปรงขนบ่อยๆ เพื่อให้ขนเก่าที่หมดอายุหลุดออกไป ทำให้ผิวหนังสามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น และผิวหนังสดชื่นอยู่เสมอ การแปรงขนนอกจากจะช่วยนวดให้ต่อไขมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นขนได้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยขจัดรังแคและสิ่งสกปรกต่างๆ ออกจากผิวหนังด้วย ถ้าเป็นไปได้ควรแปรงขนให้เขาทุกวันนะคะ
น้องหมาขนยาวปานกลางควรตัดขนบริเวณจุดที่สำคัญเช่นเดียวกับน้องหมาที่มีขนยาว คือ ขนบริเวณรอบดวงตา รอบปาก ขนใต้อุ้งเท้า รอบก้น ใต้ท้อง และผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการพาน้องหมาที่เพิ่งตัดขนไปเจอแสงแดดจัด เพราะอาจทำให้น้องหมาเกิดภาวะผิวหนังอักเสบจากการถูกแดดเผาได้ค่ะ ซึ่งน้องหมาขนยาวปานกลางก็อาจเกิดโรคแผลพุพอง (Hot spot) ได้เช่นเดียวกับน้องหมาที่มีขนยาวค่ะ
น้องหมาขนยาวปานกลางควรตัดขนบริเวณจุดที่สำคัญเช่นเดียวกับน้องหมาที่มีขนยาว คือ ขนบริเวณรอบดวงตา รอบปาก ขนใต้อุ้งเท้า รอบก้น ใต้ท้อง และผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการพาน้องหมาที่เพิ่งตัดขนไปเจอแสงแดดจัด เพราะอาจทำให้น้องหมาเกิดภาวะผิวหนังอักเสบจากการถูกแดดเผาได้ค่ะ ซึ่งน้องหมาขนยาวปานกลางก็อาจเกิดโรคแผลพุพอง (Hot spot) ได้เช่นเดียวกับน้องหมาที่มีขนยาวค่ะ
ส่วนในกรณีที่พบว่าน้องหมาเป็นโรคผิวหนัง เมื่อพาไปพบแพทย์ กินยา และใส่ยาตามที่คุณหมอสั่งแล้ว เราควรใส่เสื้อ หรือปลอกคอกันเลียให้น้องหมาเพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนที่มีอาการแพ้ อักเสบ หรือมีผื่นคัน สัมผัสกับความร้อน สิ่งสกปรกต่างๆ รวมไปถึงป้องกันน้องหมาเกาจนเกิดแผลติดเชื้อด้วยนะคะ
และสำหรับน้องหมาขนสั้นที่ผิวหนังมีความย่น อย่าง อิงลิช บูลด็อก ชาเป่ย ฯลฯ ผู้เลี้ยงก็อย่าลืมหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำ หรือสำลีชุบน้ำเช็ดร่องแก้ม หรือรอยย่นที่ถูกพับไว้ด้านในของน้องหมาที่มีผิวหนังย่นทุกวัน หรือทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะบริเวณข้างแก้มจะมีคราบน้ำตา หรือบริเวณรอยพับจะอับชื้นได้ง่าย ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นตัว และเป็นสาเหตุการเกิดโรคผิวหนังได้ค่ะ
และสำหรับน้องหมาขนสั้นที่ผิวหนังมีความย่น อย่าง อิงลิช บูลด็อก ชาเป่ย ฯลฯ ผู้เลี้ยงก็อย่าลืมหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำ หรือสำลีชุบน้ำเช็ดร่องแก้ม หรือรอยย่นที่ถูกพับไว้ด้านในของน้องหมาที่มีผิวหนังย่นทุกวัน หรือทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ เพราะบริเวณข้างแก้มจะมีคราบน้ำตา หรือบริเวณรอยพับจะอับชื้นได้ง่าย ซึ่งเป็นที่มาของกลิ่นตัว และเป็นสาเหตุการเกิดโรคผิวหนังได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูล : http://www.dogilike.com