"โรคลมแดด" โรคฮิตของสุนัขในช่วงหน้าร้อน
เป็นโรคที่มักพบในสัตว์เลี้ยง เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อน สัตว์อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่าปกติ เป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะในบริเวณที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่น ในรถที่ปิดกระจกสนิท สัตว์เลี้ยงจะมีไข้สูงมาก ซึ่งโดยปกติอุณหภูมิร่างกายไม่ควรเกิน 100.5-102.5 องศาฟาเรนไฮต์ แต่ถ้าสัตว์มีอุณหภูมิสูงถึง 105 องศาฟาเรนไฮต์ ควรรีบพาไปหาแพทย์ เพราะถ้าอุณภูมิร่างกายสูงเกินไปสุนัขอาจจะช๊อคได้
อาการของโรค
สุนัขจะมีไข้ขึ้นสูง หายใจหอบ หายใจลำบาก น้ำลายไหลยืด มีภาวะขาดน้ำ อาเจียน เหงือกสีแดงเข้ม เส้นเลือดฝอยภายในร่างกายแตก (ซึ่งอาจจะไม่สามารถสังเกตหรือเห็นได้) ซึ่งถ้ารุนแรงมากอาจทำให้อุจจาะระเป็นเลือด เกิดภาวะช็อค ชัก หรือหมดสติ และอาจทำให้สัตว์เสียชีวิตได้และส่วนใหญ่จะตายด้วยภาวะจากโรคแทรกซ้อน
วิีีธีรักษา
การลดอุณหภูมิร่างกายสัตว์ให้เร็วที่สุด ถ้าอยู่ที่บ้านควรรีบอาบน้ำให้โดยใช้น้ำเย็น เช็ดต้วลดไข้ ให้สัตว์ทานน้ำเย็น ใช้น้ำเย็นผสมแอลกอฮอล์เช็ดตามบริเวณง่ามนิ้วเพื่อใหระบายความร้อนออกมาให้เร็วที่สุด ควรวัดอุณหภูมิทางทวารหนักเพื่อเช็คอุณหภูมิร่างกายของสุนัขทุกๆ 5 นาที และควรรีบนำส่งโรงพยาบาลสัตว์หรือคลินิกสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด ถึงแม้ว่าเมื่อเราเช็ดตัวแล้วสัตว์กลับมามีอุณหภูมิร่างกายปกติแล้วก็ตาม ต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เนื่องจากการที่อุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติมากๆ มักเป็นอันตรายต่ออวัยวะระบบต่างๆของร่างกายด้วย เช่น มีผลต่อเซลล์ในร่างกาย โดยอาจมีผลรบกวนการทำหน้าที่ของไต หัวใจ ระบบประสาท เป็นต้น ดังนั้น เมื่อสุนัขเกิดภาวะ heatstroke ควรรีบนำส่งสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด
วิธีการป้องกัน
สุนัขถูกทิ้งไว้ในที่ร้อนชื้นเป็นเวลานาน โดยไม่มีการระบายอากาศ
สุนัขออกกำลังกายในที่ร้อนชื้นเป็นเวลานาน
สุนัขที่อายุน้อย และสัตว์ที่แก่ จะไวต่อความร้อนมากกว่าปกติ เนื่องจากการปรับอุณหภูมิของร่างกายไม่
สุนัขขนหนา เช่น Husky, German shepherd, Chow Chow
สุนัขที่มีปัญหาสุขภาพอยู่แล้ว เช่น สุนัขที่มีประวัติการชัก หรือ ป่วยเป็นโรคหัวใจ หรือโรคปอด ไม่ควรอยู่ใน บริเวณที่มีอุณหภูมิที่ร้อนชื้นเป็นเวลานานเกินไป
* *