น้องหมา-โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข

โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข
โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัขเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่ง และเป็นโรคที่มีผลเสียกระทบกับอวัยวะหลายๆ ส่วนของน้องหมาค่ะ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาได้หลายอย่าง และมีโอกาสทำให้น้องเค้าเสียชีวิตได้ค่ะ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็สามารถป้องกันการเกิดโรคของน้องหมาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเราจะมาเริ่มทำความรู้จักกับโรคนี้กันดีกว่าค่ะ
ตัวเชื้อพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข มีด้วยกัน 3 ชนิด ได้แก่ Babesia, Ehrlichia และ Hepatozoon โดย Babesia จะอาศัยอยู่ในเม็ดเลือดแดง ส่วน Ehrlichia และ Hepatozoon อาศัยอยู่ในเม็ดเลือดขาว

สาเหตุ
เกิดจากเห็บที่อยู่บนตัวสุนัขค่ะ โดยเห็บสามารถแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกายน้องหมาได้ 2 ช่องทาง ช่องทางแรกเกิดจากตัวเห็บเองแพร่เชื้อเข้าสู่ร่างกายน้องเค้าเลย โดยขณะที่เห็บดูดกินเลือดสุนัข เชื้อ Babesia และ Ehrlichia ในน้ำลายของเห็บจะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือดของสุนัข ซึ่งจะแตกต่างจาก Hepatozoon ที่จะติดต่อโดยสุนัขบังเอิญเลียกินเอาเห็บที่ติดเชื้อเข้าไป และใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ในการกระจายตัวสู่อวัยวะต่างๆ ส่วนใหญ่เจ้าของจะทราบต่อเมื่อปรากฏอาการ

รูปแสดงภาพ เห็บ


จะเห็นได้ว่าเห็บจะเป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคนี้ขึ้น ดังนั้นถ้าเราสามารถตัดวงจรไม่ให้สุนัขโดนเห็บกัด หรือกินเอาเห็บเข้าไป โอกาสการเกิดโรคนี้ก็จะน้อยลงตามมาด้วย
"ทำไมราถึงต้องให้ความสำคัญกับโรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข"
เรามาดูอาการของโรคกันก็จะทราบถึงข้อกังวลนี้กันค่ะ



อาการ
เมื่อสุนัขได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อโรคก็จะแอบแฝงอยู่ในเม็ดเลือด โดยในระยะแรกสุนัข อาจไม่แสดงอาการอะไร แต่เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอลง หรือตัวหน้อหมาเกิดความเครียดมากๆ ขึ้น เชื้อโรคก็จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามไปด้วย จนทำให้เม็ดเลือดที่ติดเชื้อแตกออก หรือมีรูปร่างเปลี่ยนแปลงไปจากปรกติซึ่งจะถูกม้ามทำลายทิ้ง เมื่อเม็ดเลือดถูกทำลายมากกว่าที่ไขกระดูกจะสร้างทดแทนได้ทัน ก็จะเกิดปัญหา "โลหิตจาง" ตามมา
โดยจะพบว่าเหงือกของน้องหมาจะมีสีซีดขาว และอาการโลหิตจางเป็นนานวันเข้า ก็จะมีผลกระทบกับหัวใจ ไต ของน้องเค้า ซึ่งจะทำให้น้องเค้าเหนื่อยง่ายมากขึ้น หรืออาจจะทำให้หัวใจวายได้ตามมาค่ะ นอกจากนี้พยาธิในเม็ดเลือดยังทำให้ผนังหลอดเลือดอักเสบทำให้เกิดปัญหา "เลือดออกง่าย" ตามมา หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ที่จู่ ๆน้องหมา "เลือดกำเดา" ไหลเองโดยไม่ได้เกิดจากการกระทบกระแทกใช่ไหมคะ
หรืออยู่ๆ ผิวหนังของน้องหมาก็มี "จ้ำเลือด" ปรากฎขึ้นมาเหมือนรอยช้ำแดงทั้งที่ไม่ได้ถูกตี ถ่ายอุจจาระก็อาจจะมีเลือดปน ถ่ายปัสสาวะเป็นสีเข้มเหมือนสีโค้ก นอกจากนี้พยาธิในเม็ดเลือดยังสามารถเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายทำให้เกิดการทำลายของเม็ดเลือดแดง หรือเกล็ดเลือดของตนเองด้วย เรียกว่าเพิ่มความรุนแรงเข้าไปอีกสองเท่าค่ะ


อาการโดยรวมที่พบบ่อยจะมีดังนี้
1. ไข้สูง
2. ซึม อ่อนแรง ไม่กินอาหาร
3. เยื่อเมือกซีด บ่งบอกถึงโลหิตจาง ต้องตรวจเลือดยืนยัน
(ลองเปิดปากดูเหงือก หรือดูเยื่อบุนัยน์ตา ปกติจะเป็นสีชมพู ถ้าซีดจะชมพูอ่อนกว่าปกติ บางตัวก็ขาวไปเลย
4. Capillary refilling time > 2 seconds หรือที่หมอเรียกว่า CRT คือการวัดการไหลเวียนของเส้นเลือดฝอย ใช้บอกว่ามีเลือดมาหมุนเวียนตามปลายอวัยวะมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะโลหิตจาง วิธีวัดคือใช้นิ้วมือหนึ่งนิ้วกดที่เหงือกสักครู่ ถอนนิ้วออก สีเหงือกจะคืนมาตรงรอยกดภายใน 1-2 วินาที ถ้านานกว่านั้นแสดงว่าผิดปกติ
5. บางตัวพบว่ามีจุดเลือดออกตามผิวหนัง โดยเฉพาะหน้าท้อง เมื่อตรวจเลือดพบว่าเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ
6. อาการอาการอื่นๆ ที่พบร่วมก็จะมีดังนี้ค่ะ ตับอักเสบ ม้ามโต ตับโต อาการที่พบได้แต่ไม่บ่อย ได้แก่ อาเจียน ถ่ายเหลว ตัวบวมน้ำร่วมกับอาการท้องมาน อาการทางประสาท เลือดออกในลูกตา เลือดออกในเยื่อตาขาว

วิธีการตรวจยืนยัน
1. เสมียร์เลือด วิธีนี้ความไวต่ำ แต่แม่นยำสูง บางครั้งหมาป่วยแต่ตรวจเสียร์เลือดไม่เจอ หรือบางครั้งพบพยาธิเม็ดเลือดแต่ไม่ป่วยก็มี
2. Testkit หมอจะเจาะเลือดแล้วตรวจว่าเคยติดพยาธิเม็ดลือดหรือไม่ หรือยังติดอยู่ วิธีนี้ความไวและความแม่นยำสูง
3. PCR เจาะเลือดไปตรวจ วิธีนี้ความไวและแม่นยำสูงมาก แต่ไม่นิยมเนื่องจากแพงกว่าสองวิธีข้างต้นมากๆ
การรักษาและการป้องกัน
วิธีการรักษาส่วนใหญ่คือ การให้ยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดและการรักษาตามอาการ โดยจะต้องรักษาต่อเนื่อง อย่างน้อย 3-4 สัปดาห์ ร่วมกับตรวจเลือดเพื่อประเมินค่าเม็ดเลือดแดงและเกล็ดเลือดเป็นระยะ และต้องติดตามผลต่ออีก 6 เดือน ถึง 1 ปี
การป้องกันพยาธิเม็ดเลือดนั้นจะต้องอาศัยการเอาใจใส่ดูแลจากเจ้าของ โดยการป้องกันการติดเห็บ ปัจจุบันมีหลายวิธีและหลายผลิตภัณฑ์มาให้เลือกตามความเหมาะสม เช่น ตามลักษณะพื้นที่อยู่อาศัยและลักษณะการเลี้ยง เป็นต้น นอกจากนี้ควรตรวจเลือดน้องหมาอย่างน้อยปีละครั้งด้วยค่ะ

Cadit  : sanook.com/924305/โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Labels

"โรคกระเพาะบิด" โรคร้ายของน้องหมา 10 สุนัขพันธุ์เล็ก ยอดฮิต ยอดนิยม 10 อันดับ สายพันธุ์สุนัขที่เหมาะกับครอบครัว 10 อันดับ สุนัขทำเงิน 10 อันดับ สุนัขสุดฮิตล่าสุด ติดอันดับยอดนิยมของโลก 10 อันดับสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลก ข้อดีข้อเสียของสุนัขเพศผู้ เพศเมีย ชิวาวา - 7 เรื่องลับ ๆ ของสุนัขพันธุ์ชิวาวา ชิวาวา - ลักษณะสายพันธุ์ชิวาวา ชิสุ (Shih Tzu) - กระจกตาเป็นแผลหลุม (Cornealulcer) ตู้ยาน้องหมา น้องหมา - กำจัดเห็บหมัดน้องหมา น้องหมา - ท้องเสีย..ภัยร้ายของน้องหมาที่กับหน้าร้อน น้องหมา - น้องหมาสายตาสั้น น้องหมา - เรื่องจริงจากทางบ้านยารักษาขี้เรื้อน น้องหมา - โรคร้าย 5 อันดับโรคร้าย ที่ทำให้น้องหมาตายฉับพลัน น้องหมา - วิธีดูแลขนน้องหมาในหน้าร้อน น้องหมา - แสดงอาการคัน น้องหมา-10 อันดับสุดยอดสุนัขเฝ้ายาม น้องหมา-5 อย่างอาหารต้องห้ามเจ้าตูบ น้องหมา-การกู้ชีพน้องหมา การทำ CPR ไม่ให้หัวใจน้องหมาหยุดเต้น น้องหมา-ความอดทนของสุนัขอารักขา น้องหมา-คุมกำเนิดน้องหมา น้องหมา-ฉี่เป็นเลือด น้องหมา-น้องหมาไอ น้องหมา-ปวดฟัน น้องหมา-ปากเหม็น น้องหมามีกลิ่นปาก น้องหมา-โปรแกรมฉีดวัคซีนป้องกันให้โรคน้องหมา น้องหมา-เมื่อน้องหมาเป็นไข้น้ำนม น้องหมา-ไม่กินอาหาร น้องหมาเบื่ออาหาร น้องหมา-รวมรายชื่อที่รับเผาน้องหมา น้องหมา-รับฝากน้องหมา น้องหมา-โรคตับอักเสบติดต่อในสุนัข น้องหมา-โรคพยาธิเม็ดเลือดในสุนัข น้องหมา-โรคมะเร็งน้องหมา น้องหมา-โรคลมแดด โรคฮิตสุนัขในช่วงหน้าร้อน น้องหมา-โรคหวัดโรคติดต่อ โรคฮิตของน้องหมา น้องหมา-ลำไส้อักเสบติดต่อได้ ปอมเมอเรเนียน-ลักษณะสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ปั๊กตาอักเสบ (Dogazine) เฝ้าบ้าน ภาษากายน้องหมา แมว 10 อันดับแมวที่สวยที่สุด รายชื่อโรงพยาบาลสัตว์และคลินิกสัตว์ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว-การเลือกสุนัข สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว-บางแก้วดุ กัดเจ้าของ จริงหรือ สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว-ประวัติสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว สุนัขพันธุ์ชิสุ(Shih Tzu) - วิธีเลือกซื้อ สุนัขพันธุ์ชิสุ(Shih Tzu)-เจ้าหมาสิงห์โตน้อย สุนัขพันธุ์ชิสุ(Shih Tzu)-อาบน้ำดูแลขนชิสุ